ปวดเข่าเรื้อรัง? ข้อเข่าเสื่อม หรือรูมาตอยด์?

หากคุณเป็นอีกคนที่มีอาการปวดเข่าเรื้อรัง หรือเริ่มมีอาการปวดเข่า คุณจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คืออาการของโรคข้อเข่าเสื่อม หรือโรครูมาตอยด์กันแน่? เรามาหาคำตอบกัน

โรครูมาตอยด์ (Rheumetoid Arthritis) และโรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) นั้นจัดอยู่ในกลุ่มโรคข้ออักเสบ Arthritis โดยอาการที่แสดงของโรคทั้งสองนี้อาจคล้ายคลึงกันคือมีอาการปวดบริเวณข้อ และข้อถูกทำลาย แต่โรคทั้ง 2 นี้ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันอีกด้วย

โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)

ไม่จัดอยู่ในกลุ่มของโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง แต่เกิดจากกระดูกอ่อนระหว่างข้อต่อเสื่อมสภาพ และสึกหรอ จึงส่งผลให้กระดูกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและมีอาการปวดเมื่อย โดยจะพบบ่อยที่สุดในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ

อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม

• ปวดและตึงบริเวณเข่า

• ข้อเข่าบวม

• มีเสียงภายในข้อเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหว

• อาจปวดมากขึ้นเมื่องอเข่า หรือเดินขึ้นลงบันได

โรครูมาตอยด์ (Rheumetoid Arthritis)

จัดอยู่ในกลุ่มของโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง (Autoimmune Disease) โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นโรครูมาตอยด์ จะมีอาการข้ออักเสบลามไปยังข้ออื่นๆทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณข้อนิ้วมือ และมีอาการอื่นๆร่วมด้วย

อาการของโรครูมาตอยด์

• ปวดข้อเป็นประจำช่วงเช้าหลังตื่นนอนเป็นเวลานานกว่า 30 นาที

• มีอาการปวดต่อเนื่องนานกว่า 6 สัปดาห์

• บริเวณข้อที่ปวดจะบวมแดง อุ่น และเจ็บเมื่อกด

• มีไข้

• มีอาการเหนื่อยล้า

• ไม่อยากอาหาร

คุณควรสำรวจตัวเองว่าอาการปวดของคุณเป็นแบบใด เมื่อมีอาการปวดไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน ควรเข้ารับการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง และเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี

แหล่งที่มา: 1. https://www.uofmhealth.org/conditions-treatments/cmc/difference-between-osteoarthritis-and-rheumatoid-arthritis

2. https://www.webmd.com/rheumatoid-arthritis/rheumatoid-arthritis-osteoarthritis-difference